วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555


สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร

 

จังหวัด นครราชสีมา

จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม มีเจตนารมณ์ที่จะอนุรักษ์และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของชาวไทยเชื้อสายทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือสู่สายตาชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อสร้างสำนึกในคุณค่าของประเพณีและวัฒนธรรมอีสานอันเก่าแก่และงดงาม
จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม มีการจัดแบ่งพื้นที่เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวออกเป็นหลายส่วน ดังนี้
จุดที่ 1 ทุ่งปอเทืองและสวนลอยฟ้าจิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศธรรมชาติของสวนลอยฟ้า ซึ่งสาธิตวิธีการปลูกพืชผักนานาชนิดแบบลอยฟ้า ทั้งไม้ดอกสวยงามและพืชผักสวนครัวแบบปลอดสารพิษ ความงดงามของทุ่งปอเทืองสีเหลืองอร่ามจากมุมสูง โดยจุดนี้สามารถรับประทานอาหารและเครื่องดื่มใต้ร่มเงาของซุ้มน้ำเต้า ก่อนจะเดินทางเพื่อชมจุดต่างๆต่อไป
จุดที่ 2 ทุ่งทานตะวันและลานฟักทองเพลิดเพลินกับภาพความสวยงามตามธรรมชาติของเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ อาทิ ทุ่งทานตะวันหลากสี, ทุ่งคอสมอส ที่เบ่งบานรับลมหนาว พร้อมเพลิดเพลินไปกับแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติกลางแจ้ง ตื่นตากับภูเขาฟักทองยักษ์สีสันสดใส และลานฟักทองหลากหลายสายพันธุ์ ก่อนจะ อิ่มเอมไปกับผลงานศิลปะและการเวิร์คชอปจากบรรดาศิลปินมากฝีมือ ในโครงการ Jim Thompson Art Center on Farm
จุดที่ 3 หมู่บ้านอีสานและหมู่บ้านศิลปินเรียนรู้และสัมผัสบรรยากาศอีสานดั้งเดิม ทั้งส่วนของหมู่บ้านอีสานที่หาชมได้ยาก พร้อมการจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณี และการละเล่นของชาวอีสานพื้นเมืองแบบครบครัน อาทิ การวาดฮูปแต้ม การตีหม้อ การทำเครื่องจักสาน เป็นต้น ก่อนสนุกสนานกับการผลิตข้าวอินทรีย์ ตั้งแต่การนวด การตำข้าว การฝัดข้าว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมได้ทุกขั้นตอน พร้อมเรียนรู้วงจรชีวิตหนอนไหม ตั้งแต่ผีเสื้อจนกลายเป็นเส้นไหมล้ำค่า
จุดที่ 4 สวนไม้ดอกและตลาด จิม ทอมป์สันประทับใจไปกับสวนดอกไม้หลากหลายชนิดที่ได้รับการตกแต่งอย่างประณีต เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพที่สวยงามไว้เป็นที่ระลึก พร้อมชมการสาธิตกระบวนการผลิตผ้าไหม และการทำชาใบหม่อนอย่างใกล้ชิด ปิดท้ายด้วยการเลือกซื้อผลผลิต ของฟาร์มทั้งผัก ผลไม้สดและแปรรูป ไม้ดอกไม้ประดับ รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆของ จิม ทอมป์สันในราคาสุดพิเศษ

เหมาะสำหรับ
เด็ก, ผู้ใหญ่, ครอบครัว, คู่รัก
กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว
ชมบรรยากาศอันงดงามและเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการเกษตร พร้อมเรียนรู้วงจรชีวิตของหนอนไหม ชมแปลงพืชผักและดอกไม้สีสวยสดนานาชนิด รวมถึงเลือกซื้อไม้ดอกไม้ประดับและผลผลิตทางการเกษตรปลอดสารพิษ ชมหมู่บ้านอีสานและหมู่บ้านโคราช สัมผัสวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี การแสดงและการละเล่นต่างๆ มากมายของชาวอีสาน


ของฝาก/ของที่ระลึก
ที่ตลาด จิม ทอมป์สัน มีผลผลิตทางการเกษตรคุณภาพดี อาทิ ผักไฮโดรโปนิกส์ ฟักทอง แคนตาลูป พืชผักสวนครัวต่างๆ สดใหม่ ทุกวัน รวมถึงไม้ดอกไม้ประดับหลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป อาทิ น้ำผึ้งดอกลำใย ผลิตภัณฑ์จากกล้วยหอม ชาใบหม่อน แยมลูกหม่อน ล้วนเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกในฟาร์มของจิม ทอมป์สัน จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดสารพิษ
นอกจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรแล้ว ยังมีสินค้าให้เลือกซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึกอีกมากมาย เช่น ผ้าไหมทอมือ ผ้าคลุมไหล่ เสื้อผ้า กระเป๋า ฯลฯ


 

 

ภาคตะวันออก  จังหวัดชลบุรี  ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค

      เริ่มจากคุณสุรชัย ตั้งใจตรง และภรรยา คุณสุพรรษา เนื่องภิรมย์ เจ้าของไร่องุ่นได้มีโอกาสเดินทางไปอิตาลี และเที่ยวชมไร่องุ่นหลายแห่ง ด้วยความชอบดื่มไวน์ จึงคิดที่จะปลูกองุ่นในเมืองไทย  ต่อมาเดินทางไปสหรัฐอเมริกาได้รู้จักกับคุณจอห์น และคุณแซนดี้ อาร์น เจ้าของไวน์เมกเกอร์ Arn’s Winery ในนาปา วัลเลย์   จึงเชิญทั้งคู่มาดูที่ดินที่ซื้อเก็บไว้นานแล้ว คุณจอห์นได้นำตัวอย่างดินไปวิเคราะห์พบว่าสามารถปลูกองุ่นได้ คุณสุรชัยจึงตัดสินใจทำไร่องุ่นในปี 2545
ส่วนที่มาของชื่อ Silverlake มาจากตอนที่คุณสุรชัยยืนมองอ่างเก็บน้ำห้วยตู้ ซึ่งอยู่ติดกับไร่องุ่น เมื่อพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้ามีแสงลงมาสะท้อนกับผิวน้ำของอ่างเก็บน้ำ ระยิบระยับเป็นสีเงินแวววาว สวยงามมาก จึงได้เป็นที่มาของชื่อไร่ Silverlake ซึ่งหมายถึง ทะเลสาบสีเงิน
ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค

ข้อมูลทั่วไป

ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค อยู่ติดกับองค์พระแกะสลักเขาชีจรรย์และอ่างเก็บน้ำห้วยตู้ เป็นไร่องุ่นเพียงแห่งเดียวในภาคตะวันออก มีพื้นที่กว่า 1,200 ไร่  มีทั้งพื้นที่ปลูกองุ่นทานสด และองุ่นสำหรับทำไวน์  มีแปลงปลูกดอกไม้สวยงาม นอกจากนี้ภายในไร่ยังมีร้านกาแฟ และร้านอาหาร
นักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือนจะได้สัมผัสบรรยากาศการทำไร่องุ่นตามธรรมชาติ เลือกซื้อองุ่นสดพันธุ์ดีจากไร่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากองุ่น อาทิ น้ำองุ่น 100% แยมองุ่น เจลลี่องุ่น ลูกเกด คุกกี้ต่างๆ ผลิตภัณฑ์แนะนำ ไวน์แดงวินเทจแรกของไร่ siverlake 2006 Shiraz คัดเลือกจากองุ่นสายพันธุ์ชิราสคุณภาพเยี่ยม และบ่มไวน์ในถังไม้โอ๊คแบบดั้งเดิม
ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค

ภาคตะวันออก  จังหวัดชลบุรี  สวนนงนุช

ประวัติความเป็นมา
ความเป็นมาของสวนนงนุชเริ่มต้นจาก ปี พ.ศ. 2497 เมื่อคุณพิสิฐ และคุณนงนุช ตันสัจจา ได้ซื้อที่ดินที่เป็นสวนผลไม้ เช่น มะม่วง ส้ม มะพร้าว และอื่นๆ จำนวน 1,500 ไร่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 163 ระหว่างพัทยา-สัตหีบ ต่อมาคุณนงนุชได้เดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศเกิดความประทับในในสวนสวยงาม ประกอบกับเป็นคนชอบดอกไม้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ตัดสินใจเปลี่ยนสวนผลไม้เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับ
สวนนงนุชเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ. 2523 จากนั้นประมาณ 6 ปีให้หลัง คุณนงนุช ตันสัจจา ได้มอบการบริหารงานให้ลูกชาย คือ คุณกัมพล ตันสัจจา เป็นผู้ดูแล สวนนงนุชมีการปรับปรุงและพัฒนาสวนให้สวยงามมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับแนวหน้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีนักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลกแวะมาเยี่ยมชม


ข้อมูลทั่วไป
สวนนงนุช เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้ทั่วทุกมุมโลก ภายในมีการจัดแสดงสวนสวย ทั้งสวนไม้เขตร้อนพันธุ์พื้นเมือง สวนตะบองเพชร สวนฝรั่งเศส และสวนโรมันที่สวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นรีสอร์ทที่มีห้องพักหลายแบบ เช่น บ้านทรงไทย บ้านกระท่อม บ้านแบบทาวน์เฮาส์ มีห้องอาหาร และห้องจัดเลี้ยง - สัมมนา สำหรับให้บริการกับนักท่องเที่ยวที่สนใจ
พื้นที่ภายในสวนนงนุชจัดแบ่งเป็นส่วนต่างๆ ดังนี้
สวนหิน (Rock Garden)
เป็นการนำหินขนาดใหญ่ มาจัดเรียงเป็นเนินขนาดใหญ่ผสมผสานกับพันธุ์ไม้หลากหลายชนิดเช่น ปาล์ม ปรง ต้นพญาเงิน (ไม้จากฟลอริด้า)ไม้ใบอวบ และอื่นๆ ที่มีสีเงินสวยงามและหายาก
สวนเนินลายปีกผีเสื้อ (Butterfly Hill)
เป็นสวนไม้ประดับที่มีสีสันในตัวเอง เช่น ไทรยอดทอง ฤาษีผสม ไม้ดอก เช่น เข็ม จัดปลูกบนเนินดินวางรูปแบบให้คล้ายกับลักษณะลวดลายของปีกผีเสื้อ ที่มีความงดงามสบายตาแก่นักท่องเที่ยวพร้อมด้วยน้ำพุ ด้านหน้าสวนที่พวยพุ่งอย่างสวยงามให้ความเย็นฉ่ำอยู่ตลอดทั้งวัน

สวนพุทธรักษา (Canna Garden)
ชมความงามของพุทธรักษาหลากสีสันที่มีครบทุกสี ในประเทศไทยและบางชนิดจากต่างประเทศ

สวนไม้ตัดแต่ง (Topiary Garden)
เป็นสวนไม้ประดับชนิดต่างๆ จัดรวมเป็นกลุ่มๆ เช่น ข่อย โมก ไทร ที่ตัดแต่งเป็นรูปทรงพุ่ม ขนาดไล่เลียงต่างระดับกัน อย่างสวยงาม แปลกตา
สวนผีเสื้อ (Butterfly House)
ชมความงามและวงจรการเจริญเติบโตของผีเสื้อที่มีมากกว่า 40 สายพันธุ์ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งชมไม้ดอกนานาชนิด ที่ให้น้ำหวาน เป็นอาหารสำหรับผีเสื้อ มีทั้งกลิ่นหอม สีสันสวยงาม และหายาก
สวนแกะหรือทุ่งไม้ดอกไม้ประดับ (Meadow Garden)
ร่มรื่นด้วยต้นลาน ต้นตาลโตนด ปาล์มน้ำมัน อินทผลัม ขนาดใหญ่ ประดับตกแต่งด้วยไม้ดอก ไม้ประดับและไม้คลุมดินหลากสีสัน และรูปแกะจำลองที่ได้ประดิษฐ์ขึ้นจำนวนมาก เสมือนกับฝูงแกะที่กำลังเลาะเล็มหญ้าอย่างอิ่มหมีพีมัน เหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่ปิคนิคของครอบครัว

สวนปาล์มโลก (Palm Collection Garden)
เป็นสวนที่รวบรวมพันธุ์ปาล์มจากทั่วทุกมุมโลกไว้มากกว่า 1,000 ชนิด และพันธุ์ปรงมากกว่า 280 ชนิด ที่สวนนงนุช ใช้เป็นที่แสดงพันธุ์ปาล์มให้กับคณะผู้เข้าร่วมประชุมปาล์มโลก เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2541 ซึ่งทำให้สวนนงนุชเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก

สวนตะบองเพชร และไม้ใบอวบ (Cactus and Succulent Garden)
ชมความงดงามของตะบองเพชรและไม้ใบอวบพันธุ์ต่างๆ มากกว่า 300 ชนิด จากทั่วทุกมุมโลกที่มีทั้งขนาดเล็ก ใหญ่ และเสน่ห์ของดอกตะบองเพชรที่สวยงาม ตามช่วงเวลาและฤดูกาลที่มีอายุมากกว่า 20 ปี

สวนฝรั่งเศส (French Garden)
เป็นการจัดสวนแบบฝรั่งเศสจำลองแบบมาจากพระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส ในพื้นที่เกือบ 10 ไร่ จัดเรียงหินไว้นับหมื่นก้อนรายล้อมสวนรูปทรงเรขาคณิต ใช้เข็มญี่ปุ่นเป็นลายเส้นหลัก ผักเป็ดแดงขน เป็นสีตัดลาย ต้นข่อย ไทร นีออน และชาฮกเกี้ยน เป็นองค์ประกอบ ที่ผสมกลมกลืนกันอย่างลงตัว จรดเนินหินที่สร้างศาลาไทยไว้สำหรับพักผ่อนและเป็นจุดชมวิวจากด้านบนของสวน เน้นความพิถีพิถันในการตัดแต่งเป็นพิเศษ เพื่อให้คงความสวยงามอยู่เสมอ พร้อมทั้งจัดวางรูปปั้นจากเรื่องราวในวรรณคดีไทย จำนวน 11 เรื่องไว้อย่างกลมกลืน สร้างขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. 2541

สโตนเฮนจ์ (Stoneheng)
เป็นการนำเอาหินวางเรียงกันเป็นวงกลม ที่สวนนงนุช ได้จำลองแบบมาจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติสร้างขึ้นมา แต่สวนนงนุช ได้จัดทำขึ้นมาเนื่องจากได้พบหินชุดหนึ่งจากปราจีนบุรี และได้นำมาจัดวางไว้ที่สวนเพื่อเป็นประโยชน์ ทางการศึกษาแก่อนุชนรุ่นหลัง และได้ลดความแข็งของหินเพิ่มความสวยงาม โดยได้ปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่มีสีสันเข้าไป ทำให้ตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ได้พบเห็น สร้างเสร็จเมื่อต้นปี พ.ศ. 2543
บอนไซ (Bon – Sai)
เป็นสวนที่รวบรวมพันธุ์บอนไซไว้มากมายในกระถาง ทั้งขนาดเล็กและใหญ่ เช่น บอนไซ ต้นไทร ต้นมะขาม ต้นสน ฯลฯ
สวนยุโรป (European garden)
เป็นการจัดสวนในแบบสไตล์ยุโรป ประกอบด้วยไม้ตัดพุ่ม รูปทรงต่างๆ เช่น ทรงกรวย ทรงกลม ทรงเหลี่ยม ทรงแท่ง ซึ่งตัดตกแต่งให้ดูสวยงาม และผสมผสานกับการจัดวางรูปปั้นต่างๆ อย่างกลมกลืน
สวนเนินดอกไม้ (Flower Hill)
เป็นสวนไม้ดอกสีสันสดใสหลากหลายชนิด เช่น หงอนไก่ สร้อยไก่ แววมยุรา แพงพวย ฯ ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนมาจากสวนไม้ประดับ มาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2542 การจัดสวนได้จัดเป็นแถวเป็นแนวรูปทรงต่างๆ เช่น วงกลม วงรี ลดหลั่นกันบนเนินดินริมทะเลสาบจรดกับห้องอาหารพลับพลึง และสวนแห่งนี้นี่เองกลายเป็นจุดเด่นในการถ่ายรูป ที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมาก
สวนเฟื่องฟ้า (Bougainvillea Garden)
ชมความงามของเฟื่องฟ้าหลากสีสันที่จัดตกแต่งให้เข้ากับสวนต่างๆ อย่างกลมกลืน เช่น บริเวณเนินหอชมวิว ข้างห้องอาหารพลับพลึง สวนยุโรป อื่นๆ
สวนข่อย (Thai Topiary Garden)
เป็นสวนข่อยที่ตัดแต่งเป็นรูปร่างต่างๆ ที่พิเศษ แปลกตา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศิลปะการตัดแต่งที่พิถีพิถันและสวยงาม หาชมจากที่อื่นได้ยากยิ่ง
น้ำตก (Water Fall)
เป็นน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ สร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์ ที่จัดทำไว้อย่างกลมกลืนคล้ายคลึงกับน้ำตกธรรมชาติ มากที่สุด
สวนตุ๊กตากระถาง (Pottery Garden)
เป็นสวนที่นำกระถางรูปร่างและขนาดต่างๆ กัน มาเรียงร้อยเป็นรูปทรงต่างๆ ตามจินตนาการของผู้ออกแบบ จัดทำ ซึ่งมีรูปร่างหลายหลาย จากจำนวนกระถางนับ 5หมื่นใบ กระถางที่นำมาใช้เป็นกระถางที่สวนนงนุช ผลิตขึ้นมาเอง นับเป็นภูมิปัญญาของคนไทย ที่น่าทึ่งและน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง สร้างขึ้นตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2541
สวนสับปะรดสี (Bromeliad House)
ชมความงามของสับปะรดสีมากกว่า 300 ชนิด ทั้งพันธุ์แท้ของประเทศไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ฮอลแลนด์ ในเรือนที่จัดไว้ให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ ซึ่งจัดตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสับปะรดสี ที่โชว์ความงามของดอกและใบ

สวนกล้วยไม้ (Orchid Garden)
ชมกล้วยไม้พันธุ์ต่างๆ เช่น แคทลียา แวนด้า หวาย กล้วยไม้ตระกูลช้าง กล้วยไม้ป่าจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก และกล้วยไม้ลูกผสม โดยเฉพาะพันธุ์แคทลียา สายพันธุ์ใหม่ ที่สวนนงนุช ได้ทำการผสมพันธุ์ขึ้นเอง ลักษณะดอกขนาดใหญ่ และมี กลิ่นหอม

สวนโมก (Wrightia Tomentosa Garden)
เป็นสวนโมกที่มีการนำยอด โมกลายหรือโมกบ้าน มาเสียบกับต้นโมกป่า (โมกมัน) ด้วยวิธีการใหม่ และการตัดแต่งที่พิถีพิถัน ทำให้รูปลักษณะของต้นที่มีพุ่มสวยงาม แปลกตา ดอกมีกลิ่นหอม
สวนน้ำพุ (Fountain Garden)
เป็นสวนที่จัดสร้างขึ้นมาตั้งแต่เริ่มสร้างสวนนงนุช ซึ่งปัจจุบันนี้ ยังคงรักษาโครงสร้างเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ได้ตกแต่งเพิ่มเติมไม้ดอกไม้ประดับในสวนนี้ให้สวยงามอยู่ตลอดเวลา
สวนรถไฟจำลอง (Outdoor Garden Railway)
เป็นสวนรถไฟจำลองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเซีย ซึ่งมีหัวรถจักรทั้งหมด 12 ขบวน บังคับการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า
สวนสัตว์ (Mini Zoo)
ชมและใกล้ชิดกับความน่ารักของสัตว์ต่างๆ เช่น ลิงซิมแปนซี อุรังอุตัง เสือโคร่ง ที่สามารถถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งชมสวนนกและสัตว์ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ เช่น นกเงือก กวาง เสือ สวนนกน้ำที่มีหลายชนิด และรูปปั้นสัตว์อันแสนน่ารัก ในอริยาบทต่างๆ ที่ประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และเป็นที่ชอบใจของเด็กๆ และนักท่องเที่ยวทั่วไป

อาคารวัตถุโบราณ (Antique Hall)
เป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับนักท่องเที่ยว ที่สนใจเครื่องประดับ พระพุทธรูป และเครื่องใช้โบราณ ซึ่งมีอายุมากกว่า 100 ปี ที่ได้รับการสะสม รวบรวมไว้อย่างมากมาย
โรงแสดง (Thai Cultural Hall)
เป็นสถานที่จัดการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยที่จัดตกแต่งประดับฉากอย่างสวยงาม เหมาะสมกับชุดการแสดงในแต่ละชุด ที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนช้อย งดงาม ของศาสตร์อีกแขนงหนึ่ง ของคนไทย เช่น ระบำสี่ภาค ระบำเทพนฤมิต มหกรรมกลอง ยุทธหัตถี ฯลฯ และลานแสดงช้างแสนรู้ ด้านหลังของโรงแสดง ที่นักท่องเที่ยวจะได้พบกับการแสดงความสามารถพิเศษของช้างแสนรู้ อันสนุกสนาน ตื่นตาตื่นใจ กว่า 30 เชือก เช่น ช้างเล่นฟุตบอล บาสเกตบอล ตีกอล์ฟ วาดรูป นวดคน
นอกจากนี้ยังมีสวนร่ม สวนกลางน้ำ สวนพฤกษาศาสตร์ โรงโชว์รูมรถ สะพานเชือก ตึกมด เรือนเพาะชำ บ้านพัก ร้านของที่ระลึก ห้องอาหาร จุดบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม

เนื่องจากสวนนงนุชมีพื้นที่กว้างมาก นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการนั่งรถชมสวน ซึ่งจะพาเที่ยวชมสวนในจุดต่างๆ และจะจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปเดินได้ในบางจุด พร้อมทั้งมีไกด์บรรยายให้ข้อมูลสถานที่ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ และครอบครัวที่มีเด็กเล็ก

จุดเด่นหรือสิ่งที่น่าสนใจ
สวนที่ไม่ควรพลาดต้องไปชม คือ สวนฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่ที่สวยงามจำลองแบบมาจากพระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส รอบๆ มีศาลาไทยไว้สำหรับพักผ่อน มีการจำลองหอคำหลวงที่เชียงใหม่ให้เป็นจุดชมวิวจากด้านบนของสวน และยังมีกลุ่มเจดีย์สีขาวที่สร้างจำลองจากเจดีย์ต่างๆ ในประเทศไทยซึ่งสร้างความโดดเด่นให้กับสวนแห่งนี้
และสิ่งที่น่าสนใจของสวนนงนุชอีกอย่างก็คือ ทางเดินลอยฟ้า (SKY WALK) นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมสวนนงนุชจากมุมสูง (Bird Eye View) ผ่านบริเวณสวนที่สวยงามตามจุดต่างๆ เช่น สวนฝรั่งเศส สโตนเฮนจ์ เนินลายผีเสื้อ สวนยุโรป สวนปาล์ม และสวนตุ๊กตากระถางที่สวยงาม ให้ความรู้สึกที่แปลกแตกต่างไปจากการเดินชมสวนตามปกติ ตลอดระยะทาง 1130 เมตร
เหมาะสำหรับ
เด็ก, เยาวชน, ผู้ใหญ่, ครอบครัว, เที่ยวคนเดียว, เที่ยวเป็นกลุ่ม




ดอยช้างอะคาเดมี่ บ้านดอยช้าง ต.วาวี อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

        สถานที่สำคัญของดอยช้าง ได้แก่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็น 1 ใน 9 แห่งของไทย ใกล้ๆ กันมีสวนสมุนไพรเฉลิมพระเกียรติ มีศิลาศักดิ์สิทธิ์ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมเด็จพระพุทธสิกชี อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวดอย นั่งรถขึ้นไปอีกไม่ไกลนักก็มีจุดชมวิวที่มองลงมาจะเห็นหมู่บ้านดอยช้าง เห็นเชียงรายในอีกมุมหนึ่งด้วย ระหว่างทางจะเห็นทั้งต้นกาแฟ ดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระ ดอกลำโพง เพลินตาตลอดทางเลย แม้ทางจะขรุขระก็ตาม
กลับลงมาที่ดอยช้างอะคาเดมี่ ก็เริ่มต้นฟังบรรยายความรู้เกี่ยวกับกาแฟจากอาจารย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยเฉพาะ ได้ความรู้มากมายเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ทฤษฏีอย่างเดียวภาคปฏิบัติก็สนุกสนานน่าดู ใครไม่เคยเห็นผลกาแฟ ก็จะได้เห็น ได้เก็บก็คราวนี้แหละ

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้ายบน: ลานตากกาแฟหน้าอะคาเดมี่, รูปขวาบน: หมู่บ้านดอยช้าง, รูปซ้ายล่าง: ที่พักในอะคาเดมี่, ดอยช้างอะคาเดมี่

ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: ผลกาแฟสีเหลือง, รูปขวา: ตระกร้าแบบนี้แหละใช้เอาไปเก็บกาแฟ”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้ายบน: ตากกาแฟ, รูปขวาบน: เมล็กที่เพิ่งแกะเปลือกออก, รูปซ้ายล่าง: ต้นกาแฟ, รูปขวาล่าง: ผลกาแฟบนต้น”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: ผลกาแฟบนต้น, รูปขวา: ผลกาแฟแบบนี้ที่เก็บกัน”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: เทผลกาแฟลงตะกร้าบนเครื่องชั่ง, รูปขวา: ชั่งกาแฟขาย”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“ผลกาแฟที่สุก”

กาแฟที่สุก จะมีสีแดงคล้ายผลเชอร์รี่ เมื่อแกะเปลือกออกจะมีเนื้อรสหวานๆ หลังจากนั้นก็จะสีเปลือกออกจากเมล็ด เอาเมล็ดที่ยังไม่กะเทาะกะลา (เปลือกก่อนเมล็ด) ไปตากจนแห้ง จนมาสีกะลา แล้วก็ต้องมานั่งเลือกเมล็ดกาแฟเมล็ดต่อ เมล็ด กาแฟจะมีการคั่วหลายระดับความเข้มของกาแฟก็อยู่ที่การคั่วนี้แหละ

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“ล้างผลที่เก็บมาได้ คัดแยกที่เสียออก ที่ไม่ดีมันจะลอยตัว”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“สีเปลือกออก”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“ลานตากกาแฟด้านหลังอะคาเดมี่”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: เก็บกะลากาแฟที่ตาก, รูปขวา: โรงเก็บกาแฟที่ยังมีกะลา”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้ายบน: Pearberry, รูปซ้ายล่าง: คัด, รูปขวา: เครื่องคั่ว”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้ายบน: เช็คกาแฟจากเครื่องคั่ว, รูปขวาบน: ลดอุณหภูมิหลังคั่ว,
รูปซ้ายล่าง: หลังจากลดอุณหภูมิ, รูปขวาล่าง: กาแฟที่คั่วเสร็จแล้ว”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้ายบน: อาหารบางมื้อที่กินกัน, รูปขวา: มอคค่าร้อนๆ, รูปซ้ายล่าง: เครื่องให้ลองชง”

นอกจากนี้ใครไม่เคยทำกาแฟคราวนี้ก็จะได้โชว์ฝีมือกันแล้วทั้งชงเองชิมเองทำได้ไม่อั้น ถ้าใครไม่กล้าชิมฝีมือตัวเองก็สั่งน้องๆ บาริสต้าให้ชงให้ดื่มได้ไม่อั้น ถ้าไม่กลัวนอนไม่หลับนะจ๊ะ

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: อุปกรณ์ในการชงกาแฟแบบต่างๆ, รูปขวา: ลงมือชงกาแฟ”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: คาราเมลแมคคิอาโต้ร้อนๆ, รูปขวา: อ.โลโก้ดอยช้างดอยช้างอะคาเดมี่

ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: แจกใบประกาศ, รูปขวา: ถ่ายรูปร่วมกัน”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“รูปซ้าย: ไปปลูกต้นกาแฟ, รูปขวา: ลูกท้อ”

ดอยช้างอะคาเดมี่
ดอยช้างอะคาเดมี่

“แมคคาเดเมี่ย”

ดอยช้างอะคาเดมี่